วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

พบหมอ::เดือนมีนาคม 2557

      ปี 2557 เป็นปีที่ไปพบคุณหมอน้องเอส นานๆครั้งจริงๆค่ะ เพราะหมอเริ่มนั้นห่างๆ 2 เดือนที่(ห่างตรงไหนนี้) 555 แต่ก็เอานะ ดีขึ้นเยอะ ตามหมอบอกช่วงนี้ก็ ทานยาโดสต่ำๆอยู่แล้ว 
                                                       
       วันอังคารที่ 18 มีนาคม 2557 :: พบหมอ ตามนัด
ตามเคยค่ะ เข้าไปพบคุณหมอ เจาะเลือด เก็บปัสสาวะแต่เช้าตรู...ช่วงนี้ เพลียๆ ก่อนหน้านี้ก็มี รอบเดือน และเป็นไข้หวัด พักผ่อนน้อย แต่เชื่อว่า ยังแข็งแรงอยู่ 


















ปล. กว่าจะเก็บ Pee ได้เล่นกินน้ำจนจุก 
 ระหว่างรอ..กินอาหารเช้ากันค่ะ  และตามด้วยา 
 









:: ไปดูผลเลือดกะปัสสาวะกันค่ะ ::
 :::ผลเลือด:::
WBC : การนับจำนวนเม็ดเลือดขาว (ปกติ 5-10  10^3/ul)
   - DEC : 6.3            ===2556===           ===2557===  
   - Jan12 : 2.9          - JAN :  5.2               - JAN :  6.1
   - Feb : 3.5               - FEB : 5.4              - MAR :   6
   - Mar : 3.3               - Mar : 5.2
   - April : 16.0           - APR : 4.9
   - May :  11.6           - May :  7.5
  -  May/2 :  9.2
   - Jun : 9.2                 - Jun : 6.9
   - July : 8.1               - July : 6.2
   - Aug : 6.7               - Aug : 6.3
   - Sep : 11.5             - Oct :  5.5
   - Oct :  6.1
   -  Nov : 6.4
    - DEC : 4.9 

  HGB : คือการวัดปริมาณ Hemoglobin ในเม็ดเลือดแดง (ดูว่ามีภาวะโลหิตจางไหม) (ปกติ 12-16 g/dl)
     - DEC : 13.2         ===2556====           ===2557=== 
     - Jan : 12.2           - JAN : 12.9                - JAN :  12.8
    - Feb : 12.4            - FEB : 13.0               - MAR :  12.5
    - Mar : 11.8           -  MAR : 12.1
    - April : 12             - APR :  12.5
    - May : 13.2           - May :  13.3
    - May/2 : 14.1
    - Jun : 13.2             - Jun : 12.8
    - July : 12.8            - July : 12.3
    - Aug : 13.0            - Aug : 12.5
    - Sep :   13.3          - Oct : 12.4
    - Oct : 12.3
     - Nov : 12.9
     - DEC :  12.9                

 HCT : คือ การวัดเปอร์เซ็นต์ของปริมาตรเม็ดเลือดแดงในปริมาตรเลือดทั้งหมด
 (ส่วนใหญ่จะประมาณ 3 เท่าของค่า HGB) (ปกติ 37-47 %)
          - DEC : 39            ===2556====       ===2557===  
          - Jan : 37              - JAN : 39               - JAN :   39
          - Feb : 38              - FEB : 40              - MAR :  38
          - Mar : 35              - Mar : 37
          - April : 37            -  APR : 37
          - May : 39             - May : 39
          - May/2 : 41
           - Jun : 39              - Jun : 39
          - July : 38              - July : 37
          - Aug : 40             - Aug : 38
          - Sep : 40             - Oct : 38
         - Oct : 37
         - Nov : 38
         - DEC : 38       

Platelet Count (PLT) : คือการนับจำนวนของเกร็ดเลือด ต่อ mL ในเลือด  (เกร็ดเลือดมีความจำเป็นที่ทำให้เลือดแข็งตัว) (ปกติ 150-450  10^3/ul)
          - DEC : 229          ===2556=====       ===2557===  
          - Jan : 204             - Jan : 254                - JAN :   239
           - Feb : 224           - FEB : 247              - MAR :  272
           - Mar : 215            - Mar : 226
           - April : 325          - APR : 233
           -  May :  309        - May : 245
           -  May/2 :313
          - Jun : 241             - Jun : 297
          - July :  284           - July : 277
         - Aug : 255            - Aug :243
         - Sep :  334            - Oct : 226
         -  Oct : 253
         -  Nov : 266
         - DEC : 237


:::ผลปัสสาวะ:::
    Protein(PRO)  : Negative
    Blood     : Negative


 ::ยาที่ต้องทาน::

        เพรดนิโซโลน 1 เม็ด วันเว้นวัน  (หากพ้นหน้าร้อน ค่อยมาดูกันว่าจะหยุดยาเลยไหม)
       ไฮดรอกซี่คลอโรควินไม่ต้องทานแล้ว >>> เพราะไปตรวจลานตามาล่าสุดผลออกมาเริ่มจอประสาทตาเสื่อมค่ะ เลยสมควรงดยา



     ไปรอบนี้ คุณหมอบอกว่าผลเลือดดี ผลปัสสาวะดีหมด ไตไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนแล้ว ปกติจนเรียกว่าหาย 
## หยุดยาไฮดรอกซี่คลอโรควิน (อันนี้คงเพราะไปตรวจตาล่าสุดพบว่าลานประสาทตาเริ่มเสิ่อม) เหลือยาแค่เพรดวันละ1เม็ด วันเว้นวัน>>> แล้วเดียวพ้นหน้าร้อน และเข้าฝน มาดูผลว่าโอเคไหม หากโอเค จะหยุดยาทั้งหมด ^__^
## ระวังแสงแดด >> โป๊ะครีมกันแดดให้มากๆ 
## ออกกำลังกายได้แต่อย่าหักโหม 
## อย่าไปดำน้ำอีกนะ (ไม่ว่าจะดำน้ำลึก หรือ ผิวน้ำ) หากกิจกรรมสบายๆไม่ร้อนทำแทนจะดีกว่า
## ตอนนี้อ้อมสามารถมีน้องได้แล้วนะ ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะเราสงบ และ หายแล้ว 
## แล้ว อีก 2 เดือนเรามาพบกันใหม่ 
....ดูแลตัวเองกันต่อ เลี่ยงแดดท่องเข้าไว้ ...

                  

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

โอรีโอ้ บลูเบอรี่ชีสพาย....ทำง่ายๆไม่ง้อเตาอบ

            วันนี้ขอนำเสนอ....โอรีโอ้ บลูเบอรี่ชีสพาย เอ๊ะ หรือ บลูเบอรี่ชีสพายโอรีโอ้ >> งงกันใหญ่ เอาเป็นว่าไปดูหน้าตากันดีกว่า

แต่ที่แน่ๆ ไม่ต้องใช้เตาอบเลย ^_^ เพราะเรามะมี
จากที่ทำการบ้าน หาสูตร ตามเวบ ดูรูปแบบ เราก็เริ่มเลย 

                                                     
ส่วนผสม 1.     โอริโอคุกกี้ พระเอกของเราซื้อแบบกล่อง 2 แถว ใช้หมดเลย 56 บาท2.     ครีมชีส Philadelphia เท่านั้นเค้าบอกมา ว่าอร่อยสุดแล้ว 148 บาท ใช้หมดก้อน3.     เนยจืดยี้ห้อ อลาวรี่ (จริงจะเนยเค็มก็ได้ดนะค่ะแต่อ้อมกลัวเค๊ม) ราคา 90 บาท ใช้ครึ่งก้อน
4.     นมตราหมี 22.50 บาท ใช้ 4ช้อนโต๊ะ หรือตามรสชาติที่ชอบ5.     โยเกิตสูตรธรรมชาติ ใส่ 3 ช้อนโต๊ะ (ราวๆครึ่งถ้วย)6.     มะนาว 1 ลูก อันนี้มีอยู่ในตู้เย็น ราวๆ 6 บาทได้
7.     บลูเบอรี่กระป๋อง Wilderness ราคา 132 บาท
8.     แก้วข้างบนสุด เอามาทำเป็นพิมพ์ ควรมีหลายๆใบ เพราะมันต้องใช้พร้อมๆกัน9.     ภาชนะอะไรก็ได้ลองเอามาใส่ให้ได้หลากหลายแบบ10.  พลาสติก Wrap เอามากุที่พิมพ์ ราคา 50 บาท (ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ เลือกอันที่เล็กสุด ถูกสุด ใช้ไม่เยอะ)11.  หากใช้ถาดฟรอย ใช้ขนาด 166x147x26 mm ราคา 55 บาท มี 10ชิ้น


เริ่มต้น


        เอาทุกอย่างออกจากตู้เย็นเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนย ครีมชีส เพื่อให้ไม่แข็งเกินไปเมื่อเราจะนำมาผสมกัน


1.นำโอรีโอ้ 2 แท่ง มาแกะเอาครีมออกนะค่ะ  
 


2.เริ่มบดด้วยมือ ช้อน หรือเครื่องปั่นก็ได้ อ้อมใช้เครื่องปั่นบ้าง แบ่งปั่นเป็น ละเอียดเลย และหยาบๆ แล้วค่อยเอาช้อนมาค่อยๆกดค่ะ บดจนละเอียดค่ะ


3.นำเนย(จะจืดหรือเค๊ม) ก็ได้ค่ะ นำมาครึ่งก้อน แล้วนำไปเข้าไมโครเวฟให้ละลาย แต่ไม่ต้องนานนะค่ะ แค่นับ 1- 20 ก็พอได้แล้วค่ะ ออกมาพักให้เย็นซักครู่ สีเหมือนไข่ไก่เลย 

4.นำเนยที่ละลายและพักจนเย็นแล้วไปผสมกับโอรีโอ้ที่เราบดละเอียดเรียบร้อย คลุกให้เข้ากัน

5.ลำดับถัดไป เราเตรียมภาชนะมา วันนี้เอาแผ่นพลาสติกใส่ถ้วยพิมพ์ (ใช้แก้วน้ำกาแฟ ถ้วยน้ำจิ้ม)ที่บ้านก็ได้นะค่ะ หรือจะเป็นซุปเปอร์แวร์ที่บ้านก็ได้คะเลือกได้ตามชอบใจค่ะนำโอรีโอ้ที่คลุกจนดีแล้วมาใส่ในถ้วยค่ะ วนรอบให้สูงจนลึกพอ แล้วค่อยปะที่ก้นอีกที่คะ ส่วนภาชนะอื่นก็เทแค่ราบๆก็พอค่ะ(เป็นฐานเท่านั้นเอง) นำไปแช่ตู้เย็น (ใส่ช่องเย็นได้เลย) ราวๆ 20 นาที ขึ้นไปก็ได้ค่ะ 


6.มาทำครีมชีสกันค่ะ ระหว่างรอ โอรีโอ้แข็งตัว นำครีมชีส 1 ก้อนมาแบ่ง เป็นก้อนเล็ก แล้วใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไป เว้นมะนาวค่ะ ใส่นำข้น ช้อนโต๊ะ โยเกิตสูตรธรรมชาติ ช้อนโต๊ะ ตีด้วยเครื่อง หรือคนด้วยมือ แต่อ้อมขอใช้เครื่องละกัน จนเข้ากัน ชิม แล้วใส่มะนาว แล้วชิม คนไปชิมไปเลยค่ะ ใครชอบหวาน ชอบเปรี้ยว แล้วแต่รสชาตถูกปากค่ะ คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน หน้าตาเหมือนมูสเลยคะ


7. มาแงะโอรีโอ้ออกจากถ้วยกัน ลุ้นๆ....สรุปออกมารอดพอดูได้แค่ 1 ตอนแรกจะทุบทิ้งแล้ว คุณแม่บอกว่าใช้ได้นี้ เก๋ดีๆ ไม่ต้องทิ้ง มาลองดู แค่ถ้วยเบี้ยวเอง
8.แก้ไขงานเอา นำที่แตกๆมาขย้ำใหม่ รอให้หายเย็น แล้วคร่าวนี้ใส่ถาดฟรอยเลย นำไปแช่เย็นค่ะ

9.นำครีมชีสที่เราตีไว้ มาทำการเทลงพิมพิ์ต่างๆ แล้วนำไปแช่เย็น

10. พอจะทานนำบลูเบอรี่มาเทลงด้านหน้า ก็เป็นอันว่าหม่ำๆได้แล้วค่ะ



              

       สรุปแล้ว รสชาติ เข้ากันได้ดี(คนทำไม่ชอบทานเค๊ม) ดังนั้นการใช้เนยจืดก็ประสบความสำเร็จชอบทานเปรี้ยวๆ การนำโยเกิตมาใช้ก็ work ดีกว่าใช้นมสดนะ ^_^ หร่อยๆ







             


 

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

ปลูกเห็ดกล่อง...กันเถอะ >> ภาคต่อ

จากความเดินตอนที่แล้ว

ปลูกเห็ดกล่อง...กันเถอะ >>ภาคแรก

http://aomy12.blogspot.com/2014/03/blog-post_3.html

เราได้กล่าวถึงประเภทของเห็ดไปแล้ว
พร้อม Update รายละเอียดการปลูก การดูแลของน้องเห็ดกล่อง แบบคร่าวๆไปแล้ว
ภาคต่อวันนี้จะมาเล่าถึงรสชาต5555 ใช่แล้วคะ คร่าวนี้เราจะมาอวดเมนูเด็ดๆจากการเด็ดเห็ดกินของเราเอง

จากวันแรกที่เริ่มปลูก  : วันอาทิตย์ ที่ 2 มีนาคม 2557 >> โดยปลูก เห็ดฮังการี และ เห็ดนางนวลไปค่ะ  ก็ค่อยๆฉีดน้ำ 2 เวลา(จริงต้อง 3 เวลา) แต่เราไปทำงานเลยได้เจอน้องเห็ดตอนเช้า และตกค่ำ

ก่อนอื่น มา Update น้องเห็ด ...ผ่านไป 5 วัน (วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2557) ตอนกลางคืนนะค่ะ
มาดูน้องเห็ดทั้งสอง แม่เจ้า โต บานสะพรั่งเลยค่ะ
เห็ดฮังการี ออกมาสะพรั่งเลย เต็มมือเลย


เทียบกะเหรียญ 10 บาทเรา 

เห็ด 2 ชนิด บานสะพรั่ง

มองด้านข้าง

อวบอิ่มมาก

รวมๆ จะเห็นได้ว่า พรุ่งนี้ก็ทานได้แล้ว คืนนี้นอนฝันถึงเมนูกันเลยค่ะ



อรุณซาหวาด.....เช้าวันเสาร์ที่แสนแจ่มใส เราแวะไปหาน้องเห็ดกันดีกว่า


จนวันสุดท้าย : เช้าวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2557 >> เช้านี้แวะมาชื่นชมตามเคย 


เอาละ เตรียมตัวทำครัวกันดีกว่าค่ะ

ขั้นตอนการนำน้องเห็ดออกมาต้ม ยำ ทำ แกง

1. ใช้มือของเรานี้ละค่ะ ค่อยๆ โยก และดึงน้องเห็ดออกมาจากปากกล่อง เบาๆนะค่ะ 




2. เมื่อดึงออกเสร็จแล้ว ลองส่องดูว่าในรูมีรากของน้องเห็ดเหลือไหม หากมีค่อยน้ำปลายช้อนเขี่ยรากเก่าออกให้หมดค่ะ เพื่อให้คร่าวหน้างอกใหม่ได้



3. หลังจากที่เราเด็ดเห็ดไปนั้น ต้องทำการพักเห็ด ไป 5 วันคือไม่ทำการฉีดน้ำอะไรเลย แล้ววันที่ 6 ค่อยเริ่มฉีด เพื่อให้เห็ดงอกใหม่ (รอบ2) ได้ต่อไปค่ะ 


::สรุปแล้ว:: 
   ใช้เวลา ไม่ถึง อาทิตย์ก็ได้น้องเห็ดมาปรุงอาหารแล้ว และได้ดอกใหญ่ สด สะอาด และคุณค่าทางอาหารไม่หายไปไหนเลย
วันนี้เลยนำมาทำเมนู....ต้มยำปลากระพง หน้าตาเป็นอย่างไร ไปชมกันค่ะ