วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

All About Aomy Shy กว่าจะมีวันนี้

All About Aomy Shy

         ช่วงนี้กลายเป็นแม่ค้าขนมไปซะแล้ว ว่าด้วยการทำขนมคลีน อาทิเช่น Clean Brownie และ Granola by aomy  เวลาไปส่งขนมเอ่ย หรือตอบคำถามเอ่ย
หลายๆคนๆ ถามอ้อมว่า....
  1.  ทานคลีนใช่ไหม ถึงได้ผอม สวยแบบนี้?
  2.  ทำยังไงถึงได้หุ่นดีแบบนี้ ?
  3.  ทำไงถึงได้ดูเป๊ะแบบนี้?
  4.  แม่ค้าสวยจัง
    ได้แต่ยิ้มขอบคุณทุกคำชมในใจ และอยากบอกจากใจว่า
    ...อ้อมเองเป็นคนที่มีโรคประจำตัว และผ่านวิกฤตชีวิตมาเยอะ (สำหรับอ้อมที่เคยเป็นคนปกติ) แล้วต้องมาทราบว่าตัวเองต้องกลายเป็นคนป่วยโรคเรือรังไปแล้ว แล้วก็เอาแน่เอานอนไม่ได้...ที่ว่าเอาแน่เอานอนไม่ได้เพราะอ้อมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไร เป็นอะไรที่ระบบไหน        
       อ้อมเป็นแพ้ภูมิตัวเอง หรือ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ SLE หรือ โรคพุ่มพวงที่หลายๆคนรู้จักกันดี ซึ่งหลายท่านไม่รู็จักก็เยอะ และ เข้าใจสลับคิดว่าเป็นแพ้ภูมิคะ
       แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นอะไร...พอป่วยแล้วพบว่าเจออะไรเยอะ หากเราไม่มีสติในการใช้ชีวิต สำหรับอ้อม อ้อมยอมรับคะว่าเป็นจุดเปลี่ยนในการดำรงชีวิตมากตั้งแต่มีSLE มาเป็นเพื่อนร่วมทางและคงอยู่กันจนสิ้นลมหายใจ


...ไม่เอาละ ไม่ดร่ามา เพราะว่าเราต้องเดินต่อค่ะ...
อ้อมเคยเป็น SLE ลงระบบข้อ ระบบเลือด ระบบผิว ระบบผม ลงยังไงหรอคะ
-ก็เลือดไม่สมบูรณ์เลย ไม่ใช่แค่จางนะคะ จืดเลย 555 WBC(เม็ดเลือดขาว)ต่ำเอ่ย Paletcount(เกล็ดเลือด)ต่ำ  โน่นนี้นั้นคะ

-ระบบข้อ ก็เจ็บราวเดินไม่ได้ ยามตื่นนอนก็ยกมือมาถอดชุดชั้นใน สระผมไมได้คะ รวมไปถึงไม่สามารถยันตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียงได้ หรือแม้แต่เดิน เหมือนมีอะไร มาตำเท้า รวมไปถึงข้อต่างทุกข้อร่างกาย ขาหมดแรง ยืนไม่ได้นาน นั้งแล้วลุกยืนไม่ได้ เพราะขาไม่มีแรง  จากคนปกติกลายเป็นซอมบี้ค่อยๆเดิน ลากสังขารไปทำงานคะ 5555


-ระบบผิว อันนี้ ก็อย่างทีทราบกันดีคะ ว่าสัญญาลักษณ์ของSLEทางผิวหนังคือ ผืนผีเสื้อ ที่มักจะเหอขึ้นเวลาโรคกำเริ่มหรือเจอแดดหรือความร้อน หรือปัจจัยที่เร้าโรคคะรวมไปถึงหน้าผีๆที่ตื่นมาเจอจ้ำเลือดแบบนี้คะ สวยสยองมาก แต่ต้องแบกหน้าผีๆไปทำงาน คิดดูเอา นู๋กล้ามากๆ รวมไปถึงเป็นแผลในปากอีก จะกินจะทานไรมันก็แย่ไม่หร่อยเลย

-ระบบผม แรกๆก็ร่วง ร่วงกันไป ลมพัดก็ร่วง อย่าได้แตะผมนะคะ มันร่วงไม่เกรงใจหัวนู๋เลย.......แต่อะไรก็ไม่ร้ายสุดเท่าร่วงเป็นหย่อมๆคะ จากขนาดเหรียญ10 เป็นวงเล็ก ขาวๆให้เห็นหนังหัวเล่นให้คนถามว่าพี่เจอหนูแทะหรอ ทำไมผมหายไป 555 เราก็ได้แต่ยิ้มว่าพอดีไฟดับ ตัดผมไม่เสร็จอะ ^@^  แต่ในใจอยากจะร้องไห้คะ ขอบอก แต่แล้วผมร่วงเป็นหย่อมๆก็ไม่ใช่แค่หย่อมขนาดเล็กเท่าเหรียญสิบบาทนะคะ เค้าขยายยาว กว้างใหญ่ เทียบเท่าฝามือ และยาวติดกันจนเป็นคาดผมเลยก็ว่าได้ 5555 สนุกเลยค่ะ หมดสวย หมดสภาพ รักษากันไปค่ะ ก็แค่ฉีดสเตรอยลงหัวสดๆคะ เลือดไหลซิบๆ แท่งกันไป เจ็บแบบมดกัน แต่หมดกันทั้งรังนะคะ 5555













## ทั้งนี้ทั้งนั้น..ลงระบบไหนก็ไม่โหดร้ายเท่าลงระบบไตค๊า...ขอบอก##
         SLE ลงไปเล่นงานที่ระบบไตคะ อ้อมเลยมีภาวะไตรั่วคะ โปรตีนรั่วคะ ตัวเริ่มบวมน้ำ ประกอบกับต้องทานยาสเตรอยรักษาก่อน เบื้องต้นให้ลองทาน 12เม็ดต่อวัน หากไตไม่ดีขึ้นต้องคีโม T__Tแค่ได้ยินว่าโรคกำเริ่มลงไต ไตรั่วก็แย่แล้วค๊า แล้วนี้ต้องทนกับการทานยารักษาตัวเอง ด้วยยาสเตรอย วันละ 12 เม็ด(แถมถามว่าจะตอบโจทย์ไหมก็ต้องลุ้นกันคะ) เอาไงเอากัน แม้ผลข้างเคียงของมันจะร้ายกาจ เกินจะทนได้ แต่ไม่เชื่อหมอจะเชื่อใคร....ร้องคะ ร้องไห้ตรงนั้น ขอเวลา 15นาที ร้องไห้พอ แล้วเงยหน้ามาถามว่า เอาไงเอากันซักตั้งคะหมอ นู๋พร้อมแล้ว!!!!
ถามว่า สเตอรอยทำไรนู๋บ้าง
  1. - อารมณ์แปรปรวน 
  2. -หน้าบานเป็น Moon Face
  3. -อ้วนคะ หิวตลอด อยากอาหารตลอ เค้าจะทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้ดีมาก(เซลลูไลท์เพียบ)
  4. -ทำให้ตาไวต่อแสง และเอาส่งผลให้เป็นต้อ
  5. -ทำให้เป็นสิว สิวมหากาพย์ (ก็เป็นดังไขมันใต้ผิวหนังหน้าเรานี้เอง)
  6. -ทำให้กระดูกพรุน
  7. -ทำให้มีโอกาสเส้นเลือดที่สะโพกตีบคะ

    อร๊ายๆๆ อะไรจะเยอะแยะไปหมดคะ แต่ ก็ต้องกิน555 อ้อมเลยได้รับอนิสงฆ์มามากมาย
ทั้งหน้าบาน อ้วนพลี ไขมันสะสมในส่วนที่เราไม่ชอบ อาทิเช่น แขน หน้า ขา หน้าท้อง และอื่นๆอีกมากมาย แต่ว่าไปเรื่องบวม นี้ก็แยกยากคะ บวมไตหรือบวมยา 555




     














         
       เอาเป็นว่า อ้อมเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ค่ะ จนวันนึง รักษากันไปคะ แล้วเริ่มไต Negative เลือดดีขึ้น ผมเริ่มงอกใหม่ ดูสภาพเป็นคนมากขึ้นจริงๆ
      แต่พอส่องกระจก นีมันคนหรือถังน้ำเดินได้ ลดยาแล้วน๊าไมหน้ายังบวมมอยู่ ตัวยังเละเทะแบบนี้
อืมไม่ไหวนะ เราจะยอมรับสังขารแบบนี้หรอ ก็เลยสอบถามคุณหมอว่าเราเริ่มออกกำลังกายได้ไหมคะ หรือจะจัดการ กับไขมันเหล่านี้ได้อย่างไร ร่างกายอ้อมพร้อมหรือยังคะ
คุณหมอบอกว่า ลองดู ว่าร่างกายรับการใช้พลังงานหนักๆหรือยัง อย่าหักโหม  เพราะจะทำให้ร่างกายเราบาดเจ็บได้นะครับ แล้วเกิดการอักเสบ เราจะโรคแอคทีฟอีกนะครับ
    อ้อมก็เลยคิดว่า...เรามีโอกาสดูแลตัวเองอีกครั้ง เลยถามตัวเองว่า ความตั้งใจของเราคืออะไร
ก็ตอบตัวเองว่า อยากแข็งแรง และสุขภาพดี ประกอบกับ ไม่อ้วน ??
ก็เริ่มศึกษาหลายๆอย่างเลยค่ะ สรุปแล้ว มาจบลงเอยที่เราต้องบาลานซ์ชีวิตใหม่ค่ะในการใช้ชีวิตคะ
+เริ่มที่ตัวเรา ตั้งแต่เป็นคนคิดบวก
+เริ่มจัดตารางการออกกำลังกาย>>ให้เป็นนิสัย เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลยคะ
+เริ่มดูแลอาหารการกินคะเพราะอ้อมเชื่อว่า You are what you eat นีจริงๆเลย

       พอเริ่มมีแรงฮึด...ก็คิดว่าเราต้องกลับมาเหมือนเดิมได้ซิ!! จะปล่อยไปเลยตามเลยเพราะเหตุผลว่าเราป่วยหรอ??? ไม่ดีมั้ง ><" มันไม่ workแน่ (คือเดิมทีก็ไม่ใช่คนดูดีอะไรมากมาย แล้วเป็นแบบนี้ยิ่งไปใหญ่) ก็บอกตัวเอง จะไม่เสียตังเพื่อซื้อfitness แต่เราจะเริ่มที่บ้าน จะลองใจตัวเองว่า สามารถแบ่งเวลาๆ หลังเลิกงาน แล้วกลับมาออกกำลังกายที่บ้านเองได้ไหม หากทำได้ นั้นคือเราสามารถจัดการเวลาให้ตัวเอง เพื่อเพิ่มสิ่งดีๆไปในชีวิตได้
        งั้นเราเริ่มเลย
         Mission #1:ความตั้งใจ มาเพิ่มสิ่งดีๆให้กับชีวิตเรา (หลังเลิกงาน)กันเถอะ
ก่อนอื่นก็แค่มีความตั้งใจ!! ซึ่งมันสำคัญมาก เพราะภาระกิจนี้ใช้ ใจ ก่อนเลย
โดยเราต้อง เลิกงานให้ตรงเวลา (เนียนเลย) แล้วรีบบึ่งกลับบ้านค่ะ เมื่อถึงบ้าน ก็นั้งพักก่อน อ้อมมักจะเริ่มออกกำลังกายราวๆ 17.40 -18.00 แรกๆก็เริ่มจากเต้นๆ ไปตาม  You Tube หาClip ที่เราชอบ และพอใจ จัดไปคาร์ดิโอ เพราะตอนแรก ยังไม่รู้จักประเภทการออกกำลังกายเลยจร้า ว่าอะไรคืออะไรค่ะ คาร์ดิโอเอ่ย บอดี้เวทเอย อะไรหวา มันต่างกันยังไง ทำไรก็เหนื่อยไปหมด 555
       เอาเป็นว่า เริ่มเลยเถอะคะ  แรกเริ่มเดิมทีอ้อมบอกตัวเองว่า ขอเลยนะ 3 วันต่อสัปดาห์ 25-30นาที ต้องได้เหงื่อ อยากบอกว่าวันแรกๆ เต้นไปแค่ 10 นาทีแทบถอดใจแล้ว...แต่ไม่ยอมคะ เราต้องสู้ ลองซักตั้ง สรุปว่า เต้นไป หอบไป เหนื่อยจร้า หยุดเป็นพักๆ คอยๆทำไป ไม่หักโหม (เพราะเราเป็นคนพิเศษ...ป่วยเป็นพิเศษ) อ้อมเริ่มเต้น Taebo (more detail หาในดูได้ใน google) สรุปดีคะ เป็นการเต้นคล้ายแอโรบิค ผสมกะboxingคะ  เริ่มทำไปเรื่อย จนเหมือนร่างกายปรับตัว ก็เริ่มศึกษาต่อว่าเต้นๆแล้วมีอะไรได้อีก เราจะ มีขา ก้น หน้าท้องแขนที่เล็กลง(ไม่ถึงต้องมีsix pack หรอนะตอนนี้) ก็มา get ว่าอ่อ ต้องเวท ด้วย แบ่งร่างกายในการออกกำลังกาย เป็นส่วนบน (upper) และส่วนล่าง(lower) และ abs(หน้าท้อง...ส่วนกลางนะ) รายละเอียดเยอะมาก
ติดตามดูlinkต่างๆที่อ้อมเคย รวบรวมไว้ ได้ที่ Blog นี้ค่ะ "สุขภาพที่ดีไม่มีขาย....อยากให้พุงย้อยหายไปต้องทำเอง"
     Mission # 2 สร้างวินัย : ภาระกิจนี้ละคะ ที่ทำให้อ้อมประสบความสำเร็จ
จากแรกเริ่ม ตั้งใจไว้ว่า 3 วันต่อสัปดาห์
หลังๆ เริ่มเป็น 5 วันต่อสัปดาห์
คือแบบว่ามันฟินมากคะ เราค่อยๆออกไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึก ว่า แข็งแรงขึ้น คล่องตัวขึ้น และ รู้สึกเห็นความต่างค่ะ ร่างกายเริ่มเล็กลง และเห็นการเปลี่ยนแปลง เยอะ เมื่อทำแบบนี้ประจำๆ ร่วมๆ 3เดือนคะ เห็นคะว่ามันดีขึ้น แต่เอ๊ะ ทำไม มันดูไม่เป๊ะเท่าไร มันต้องเสริมอะไรเป่าน๊า สรุปแล้ว เรายังขาดความรู้ความเข้าใจค่ะ เรื่องการกินด้วย โอ้ เราเข้าใจผิดนี้เอง ออกกำลังกายหนัก ดันอดอาหาร ตายๆ ตายอย่างมากนะคะ ตกม้าตายคะ มันผิดมหันต์เลยคะ เพราะหวังผอมทางลัด แรกๆ มันก็ดูดี เพราะตื่นมาแห้งเลย (เล่นออกกำลังกายหนักแล้วอดมื้อเย็น) โทรมนะคะ ร่างกายจะพังเอา ไม่ดีเลยขอบอก
     Mission # 3 กินอาหารดีๆ คลีนๆกันเถอะ : จริงแล้ว ภาระกิจการกินนี้ เป็นเรื่องไม่ยาก และไม่ง่ายคะ ตอนแรก ก็ไม่เข้าใจคำว่กินคลีน คืออะไร มีแต่สลัดหรอ เหอๆไม่ใช่หนอนนะ จะกินแต่ ใบไม้ ใบหญ้าคงไม่ใช่อะ 5555 โอเค งั้น เรามาฝึกพฤกติกรรมการ Say No อาหารพวกนี้ก่อนเลยดีกว่า
1. ของทอดไม่
2.ขนมถุงทุกชนิด
3.อาหารแปรรูป สะดวกซื้อ รวมไปถึง junk food ทั้งหลาย
4. อาหารที่มีรสเค็ม
5.งดน้้ำหวาน บอกตัวเองว่า หากจะทานชา กาแฟ (ทีชงเอง) จงใส่น้ำตาลได้แค่ 2 ช้อนชาต่อวันนะจ๊ะ
     ยอมรับ อ้อมเอง ค่อยข้างโชคดีในเรื่องการกิน เพราะใจแข็งมาก อย่างที่บอกคะ เคยไตรั่ว เลยทานแต่จืดๆมาแต่ไหนแต่ไรและก็ไม่ทานน้ำปลามานานมากแล้ว ประกอบกับไม่ทานขนมกุ๊บๆกรอบๆ เล่นเพราะมันเค็มและมีผงชูรสจัด(อ้อมแพ้ผงชูรสคะ) เลยกินเพื่ออยู่ เพื่ออิ่มท้องไป สโลแกนของอ้อม
     แต่อย่างที่บอกค่ะ การออกกำลังกายแล้วอด มันไม่ใช่นะคะ ร่างกายต้องการสารอาหารไปซ่อมแซม







วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ครั้งนึง_เนื้องอกในโพรงมดลูก_พบหมอเฉพาะทาง(SLE) 58 #2

 จากภาคแรกที่ไปตรวจภายในแล้วพบว่ามีเนื้องอกในโพรงมดลูก
http://aomy12.blogspot.com/2015/08/58-1.html
                  
 >>8 กรกฎาคม 2558<<

     วันนี้ภาระกิจคือ เจาะเลือด เก็บปัสสาวะ และ x-ray ปลอด เตรียมความพร้อมผ่าตัด
ไปแต่เช้าค่ะ เพราะอดน้ำ อาหารซะเหนื่อย แต่จริงๆแล้วทีรามาเจาะเลือดสามารถทานน้ำในตอนเช้าได้นะค่ะ แต่อ้อมเอาให้ชัวร์คะ (เจาะเลือดเลยเหนียวข้นเลยไหลช้า)
    ไปถึงแต่เช้ามาก 6.15 ได้คะ ขนาดไปแต่เช้าแล้ว คิวยังยาวไปถึงที่
รายละเอียดทีต้องตรวจวันนี้ มากมาย
มาแต่วันๆเลย
คิวที่ 45 เลขสวยเลย

         ก็ไปที่ชั้น 3 โซนเจาะเลือดและแจกถ้วยใส่ปัสสาวะ คนเยอะมากค่ะ มีแต่คน สูงวัยทั้งไทยและเทศ(เดียวนี้ คนต่างชาติก็มาใช้บริการที่ไทยเยอะ)
เจาะเลือดไป 3เข็มคะ แต่ดีนะเค้าแทงที่เดียวเพราะมีอุปกรณ์ที่ทำให้คนไข้เจ็บครั้งเดียว แต่เลือดอ้อมเหนียวมาก เจ้าหน้าที่บอกว่า ที่รพ.รามา นั้นสามารถดื่มน้ำเปล่าในตอนเช้าได้คะ เพราะแลปใช้น้ำยาเฉพาะ คนไข้จะได้ไม่ทรมาน . ไม่ทันแล้วคะ นู๋ถึก และอดทนมาก

สู้ๆคะ


เจาะเลือดเสร็จแล้วคะ
      ต่อมางานยากและ เก็บปัสสาวะ เหอๆ กินน้ำให้ฉี่ดังใจนี้มันยากแท้ 55 อมมาตั้งแต่เที่ยงคืน งั้นงานนี้ ยืนกินน้ำให้พุงแตก หน้าตู้กดน้ำ




ยังกินไม่ไหวแล้ว ไป x ray ปอดกันดีกว่า เดินไปอีกฝั่งคะ ชั้นเดียวกันนี้ละ 
อ้อมก็งงว่าต้อง x ray ก่อนกินข้าวเป่าแต่เอาให้แน่ๆ ทนอีกนิดไป x ray ก่อนละกัน
เดินไปต่อคิว จ่ายตัง รอเรียกคิว No.54 เลขสลับมะเช้าเลย 


เลือดชุ่มเลย เหอๆ นี่ขนาดยังไม่ผ่าตัดนะ แค่เจาะเลือดมันยังหยุดยาก
เอาไงเอากัน
เสร็จภาระกิจช่วงเช้าแล้วคะ เราไปพักทานข้าวกันดีกว่า เด่วรอพบคุณหมอ ตอนเย็น
โน่น 16.30 ได้ นอนรอไปเลยดีกว่า

          

นั้งนอนๆอยู่แถวนั้น ก็ใกล้เวลาแล้วจร้า รอฟังผล(ต่างๆนานๆ) 
ก่อนพบหมอ ทางรพ.ให้ตรวจคลื่นหัวใจด้วย อิอิ ดูดซะแรงตัวแดงไปหมด 555 

ผลการตรวจคลื่นหัวใจ..อ่านไม่เป็นงะ

 รอ  รอ  รอ  
 รอ จนหมอเรียก
เข้าไปแล้วพบว่า Oh my God หมอสวยมาก ^_^
อ้อม : คือนู๋จะผ่าตัดคะ แล้วพอดีมีโรคประจำตัวคือ SLE...... บลาๆ บลาๆ (เล่าไปตาเดิม)
หมอ: คุณเป็นคนไข้ SLEที่ดูไม่ออกว่าเป็น SLE สวยมากเลยค
อ้อม : ยิ้มๆ ขอบคุณคะหมอ แต่นู๋ก็แย่มาก่อนตอนลงไต และนู๋ก็ไม่อยากแย่แบบนั้นแล้ว
หมอ: เพื่อนหมอก็เป็น เป็นทีตา เค้ายาเยอะ ยังบวมกว่านี้ เรายังดูดีมากนะ หมอเข้ามาแตะมือ และเชคไปเรื่อย หมอบอกว่าทำไมใจเต้นแรงจัง เป็นไทรอยหรือเป่า
อ้อม : ไม่คะ ไม่น่าจะเป็นนะค่ะ แต่ไม่เคยเช็คคะ
หมอ: งั้นหมอขอตรวจเพิ่มก่อนนะ
อ้อม :  ขอให้ไม่เป็นไรอีกเลยค่ะ นู๋เหนื่อยแล้วหมอ ไม่ได้เข้มแข็งอะไรมากมาย บ่น แถมร้องไห้ไป 55
หมอ: หมอมาจับมือ แล้วให้กำลังใจ (หมอน่ารักมาก)

หมอรีบติดต่อทางแผนกเลือด ที่เจาะไปมะเช้าว่ายังทันไหม มีเลือดที่ฟรีซไว้ไหม จะได้ไม่ต้องให้คนไข้เจาะใหม่อีก >> สรุปว่า ได้มีเลือดพอเช็คแลปไทรอยได้ 

หมอ : งั้นเราเดินไปชำระเงิน แล้วรอผลแลปอีกแวบนะคะ แล้วมาพบหมอใหม่ 
 อ้อม : ได้คะ เด่วนู๋เดินไปก่อนนะค่ะ

                        รอ อีก รอ อีก รอ อีก
ข้ามเวลารอคอยที่แสนตื่นเต้นและกดดันคะ
ผลไทรอยมาแล้ว
ข่าวดี ไม่เป็นจร้า มีอะไรให้ยิ้มออกแล้ว
ไปดูแลปอื่นๆกันเดียวเรามาฟังผลสรุปที่เดียว






สรุปผลรวมยอดนะค่ะ

 ไม่เป็นไทรอย

 ไม่มี HIV

 ผลปัสสาวะปกติ ไตปกติ

 ผลเลือดดีขึ้น (แม้จะไม่ได้อยู่ในเกรณ์ที่ควรจะเป็น) แต่ดีกว่าครั้งแรก ตอนนี้ Platelet Count(PLT)= 167 เกล็ดเลือดอยู่ในช่วงที่ดี(140-450) 

แต่ก็เสี่ยงเหมือนกันสำหรับคนที่จะผ่าตัด เสี่ยงเลือดไม่หยุด
 3
เอานะ มันก็ดีขึ้น ดูได้จากผลข้างล่าง เทียบกัน 
ลองดูก็โอเคขึ้นจริงๆ

ผลเลือดเทียบกัน ครั้งที่1 & ครั้งที่2
                                       Sawasdee Ka!!!
แต่หมอก็ยินยอมให้ผ่าตัด เพราะยิ่งทิ้งไว้นานวันเราไม่ทราบว่า คนไข้จะสภาพร่างกายแย่ไปกว่านี้ไ่
และไม่รู้ว่าก้อนเนื้องอกนี้จะโตหรือไม่โต แล้วจะเสี่ยงเลือดออกเพราะความผิดปกติจากเนื้องอกครั้งนี้
Ok เตรียมผ่าตัดตามแผนของหมอสูติได้เลยคะ 

โดยคุณหมอคนสวยโน็ตข้อความเยอะมากเพื่อเตรียมการผ่าตัด
เท่าที่ฟังทันนะคะ หมอบอกว่า

  ก่อนผ่าตัดจะต้องให้สเตรอยทางกระแสเลือดเพื่อปรับร่างการคนไข้ก่อนผ่าตัด
  และหลังผ่าตัดให้ทานเพรดนิโซนโลน 3 เม็ด เป็นเวลา 3 วันหลังผ่า
  และให้กลับไปหาหมอ SLE ที่เดิม(รพ.เกษมราษฎร์) หมอไม่นัดต่อนะค่ะ

โชคดีคะคนไข้ 
   


หมดไปอีก 1 วัน สำหรับขั้นตอนการเตรียมความพร้อมผ่าตัด
แต่คิดบวก เป็นการที่ทางรพ.ใส่ใจคนไข้ถึงขึ้นสูงสุด
ร่วมกันพิจารณา ลดความเสี่ยงที่จะเกิดคิด
ซึ่งส่งผลดีให้กับคนไข้
เสียเวลา อันน้อยนิด แต่เพิ่มความมั่นใจ
สู้กันต่อคะ
     
Next Step คือกลับไปหาคุณหมอสูตินารี 
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2558