วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

เอ๊ะ อะ เลือดก็ไหล(ออกจากจมูก)

 19-11-21

ได้เวลาไปพบหมอจนได้ (ลอยกระทงที่รพ.)


      เนื่องจากช่วงนี่อ้อมชอบเลือดกำเดาออกบ่อย สังเกตุได้จะมักเป็นหลังจากที่ออกกำลังกาย (ทั้งในร่ม และหน้าบ้าน) วันไหนเล่นแล้วตัวร้อนต่อเนื่อง (แบบburn ยาวๆ) ก็จะมีเลือดไหล หรือซึมจาก จมูก (ส่วนมาชอบมาทางขวา)

       แต่หลังๆนี่ถี่บ่อยละ ไม่ได้ทำไร นั่งชิลๆก็เลือดไหลเป็นน้ำ แล้ววันนี้ ออกกำลังกาย (ไม่หนักกล้าพูด) เดินมาก้มเอาของ รู้สึกเหมือนมีน้ำไหล นึกว่าน้ำมูก กำลังจะเช็ด นั่น แมะลงมาเลยจร้าที่พื้น....เลือด (อืม) เดินหยิบมือถือมาอัดเลย(กะเอาให้หมอดูว่าไหลเป็นโจ้กเลย)....แล้วก็รีบนั่งและนอน ประคบเจลเย็น ทิชชูอุด ดูเป็นระยะ น่าจะ ร่วม 20-30 นาทีที่นอนจมกองเลือด(อันนี้ก็ว่าไป) เลือดหยุด มีแต่ลิ่มเลือทีค้างอยู่

...ติ๊กต๊อก พุงตัวไปรพ.เลยดีไหม แต่ตอนนี้เลือดไม่ไหลละ โทรไปถามก่อน หมอ SLE มาไหม (ไม่อยากไป รพ. กลัวโควิด)

แล้วหมอก็มา งั้นนั่งดูอาการก่อน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปคะ เพราะแม่บอกว่า สัปดาห์นี่ อ้อมอยู่เฉยๆเลือดก็ออกนะ...(และบ่นอีกมากมาย)





...โอเค ไปก็ได้ 

เมื่อไปถึงรพ. เจอคุณหมอประจำตัวเดินอยู่พอดี ก็เลยวิ่งไปทัก

A:สวัสดีคะหมอ หนูมาหาหมอ 

Dr.1:หมอถามว่าเป็นว่าไร

A:หนูเลือดกำเดาออกคะ ตอนนี้หยุดแล้ว

Dr.1:งั้นไปที่แผนก หู ตา คอ จมูก ก่อน เพราะต้องส่องกล้องดู

A: ได้คะหมอ แต่หมอเค้าจะกลัวหนูไหม

Dr.1:ให้หมอทางนั่นสั่ง แล้วหากไม่แน่ใจ ลงมาเชคเลือดดูเกล็ดเลือดและความเข้มข้น กับผมอีกที่ก็ได้

>>รีบไปหาหมอ หตคจ. แต่จนท.บอกรอบ่ายได้ไหม (เราก็งอแง กลัวบ่ายแล้วเด่วไม่ทันหมอ SLE) ซักพัก จนท. หันมาบอก ได้คะ

คุณหมอ หตคจ. รออยู่(ท่านคงกำลังเลิกงาน แต่รอ)กราบ

A: สวัสดีคะคุณหมอคือหนูชอบมีเลือดออกจมูกไม่รู้ว่าเรียกอะไร จะเลือดกำเดา หรืออะไรไม่รู้ รู้ว่ามันไหลบ่อยจัง

Dr.2: ไหลล่าสุดเหมือนไรคะ

A:เมื่อเช้าคะราวๆ 8.00 ได้ แล้วก็เล่าๆๆ ว่าเราทำอะไร อย่างไร มีอะไร ปฐมพยาบาลอย่างไร

Dr.2:หมอเลยขอส่องกล่องดู เพื่อดูว่าเป็นเลือดออกจากส่วนหน้า หรือหลัง และสอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

>>หมอส่องดู เชคทั้งโพรงจมูก และ คอ(แทบอาเจียน)

Dr.2หมอบอกว่ามีร่องรอยของเลือดที่ออกในโพรงจมูกด้านหน้า หมอถามว่ามีออกในคอไหม

A:(อืม..หมอคะหนูไม่รู้งะกลืนหมดแล้วม้าง)ไม่น่านะคะ

Dr.2 : แล้วSLE ตอนนี้ทานยาอะไรอยู่ไหม

A : ไม่คะ โรคสงบมา 2 ปีได้คะ มีแค่ยาบำรุงทั่วไป (พร้อมเทยาที่พกมา)

Dr.2 : ก็มีวิตามินซีแล้วนี่นะ (มันช่วยเรื่องความแข็งแรงของเส้นเลือด)

หมอให้ยาเพิ่ม 2ตัว มีเจลป้ายก่อนนอน ช่วยให้ชุ่มชื่น และ ยาพ่นให้เส้นเลือดหดตัวนะ

แล้วเดียวจะให้เชค CBC(ก็ดูเลือดและเกล็ดเลือดทั่วไป) และ Coating(ฟังไม่ทัน) เป็นแลปเชคการแข็งตัวของเลือด

ตอนนี้พบร่องรอยเลือดที่โพรงจมูกด้านหน้า และมีบาดแผล อาจจะเกิดจาก 

-ภูมิแพ้

-ความร้อน ที่ทำให้เส้นเลือดขยาย

-การเคาะ หรือการกระแทก อาจจะจากการสั่งน้ำหมูกหรือจาม

...อย่างไรเดียวได้ผลเลือด เอาแลปไปอ่านกับหมอ SLE เชคชัวร์อีกครั้ง แล้ว check up อีกที่ 1 สัปดาห์

>>รอ รอ รอ จนเดินกลับไปหาหมอประจำตัว

A : หนูกลับมาแล้ว ใครก็กลัวหนูคะพอบอกเป็น SLE

Dr.1 : เป็นธรรมดาเค้ากลัวเพราะเคสเราจะมีปัจจัยเยอะ พร้อมยื่นแลปให้ดูและอธิบายไดังนี้

1. CBC : ผลเลือดดูปกติ ดีกว่าครั้งก่อนที่มา follow SLE มากด้วย (อันนี้เป็นแลปประจำตัว)

ส่วนแลปดูค่าการแข็งตัวก็ดี เมื่อเทียบกะเกณฑ์(อันนี้ก็ฟังไวไวไม่เคยตรวจมาก่อน)หมอว่าดีก็โ

2.หมอ หตคจ. บอกว่าเรามีแผล และร่องรอยของเลือด  ผมว่าน่าจะไม่มีอะไรน่ากลัว(แล้วหมอก็เปิดรูปโพรงจมูก ส่วนหน้าและหลังให้ดู) แล้วก็เล่ายาวๆๆๆไป เพื่อให้เราเข้าใจว่ามีโอกาสเกิดได้ เหมือนเด็กๆที่ชอบเลือดออก



สรุปคือ....

1. อาจจะเกิดจาก อากาศร้อน เส้นเลือดขยาย และเดิมมีแผลอยู่ก็เลยทำให้เลือดไหลออกมาอีก

2.ภูมิแพ้กำเริบ จากฝุ่น(ตอนนี้มีฝุ่นPM2.5) อ้อมแพ้ง่ายด้วย

3.การจามแรงๆ หรือสั่งน้ำหมูกแรงๆก็ทำให้เลือดออกได้ เพราะตรงจุดที่อ้อมเลือดออกเป็นเส้นเลือดฝอยเยอะมาก

ดังนั่น ก็แค่

1.เลี่ยงปัจจัยเร้าการเกิดเลือดไหล คือ ไม่ตากแดด เปิดแอร์ออกกำลังกาย กันฝุ่น ลดการเคาะหรือทำรุนแรงกับจมูก(ไอ จาม สั่งน้ำมูกเบาๆ)

2.ส่วนเรื่อง SLE ก็ดูแลตามเดิมเพราะตอนนี้โรคสงบไม่ต้องกลัว แต่อย่าไปตากแดด ที่แออัด (อะไรดีก็ทำต่อไป)

...แล้วพ่นยา ป้ายยา พักผ่อน หาก1 สัปดาห์ไม่มีเลือดออกอีก ก็เป็นจบ ส่วน Follow SLE ก็ตามนัดเดิมปีหน้า...

โชคดีนะครับ ไม่น่ากลัวแค่ปรับตัวอีกนิดนะ เราแข็งแรงเหมือนคนปกติแล้ว ^^ 

     อยู่ดีไม่ว่าดี...อิอิ เสียตังรักษาตัวไป อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่า SLE ไม่กำเริบ ก็พอ หรือไม่มีอะไรอันตราย แค่เราบอบบางเท่านั่นเอง เจ็บตัวเองจ่ายตังเอง แค่ 3พันนิดๆ





ปล. คลิปวีดีโออาจจะไม่สุภาพ คนกลัวเลือดอย่าได้ดู อันนี้บันทึกไว้เพื่อประกอบการรักษา
เลือดไหลเป็นโจ้ก






วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

💉วัคซีนเข็มที่1และ2: 2564 :Astrazeneca vaccine:

เริ่มเล่าไม่ถูกเลย....เพราะรู้สึกหดหู่ เมื่อพูดถึงสถานะการณ์ตอนนี้

ไม่น่าเชื่อว่าเราต้องทำงานที่บ้าน WFH มาปีกว่าแล้วเพราะ Covid-19 จริงก็เหมือนจะมีแนวโน้มดีขึ้น 

แต่เราก็วิกฤตกันไปหมด ต้นปี 2564 ก็ดูมีระลอกใหม่(เล่ายาว ขอไม่เล่าละกัน...เพราะจำไม่ได้ละ)

เรามองว่า ไม่ใช่ความผิดอะไรของใคร เพราะทุกคน ก็ทำดีที่สุดและ พูดง่าย ก็มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะ จากแรงงานต่าง....หรือแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน บลาๆๆ การ์ดตกบ้าง แต่ก็เป็นจุดเกิดเหตุ ให้ปีนี่

ปีที่เห็นข่าวต่างๆ แล้วสะเทือนใจ เห็นการจากลาแบบไม่ได้ลา เป็นข่าวราววัน เห็น....เห่อพูดแล้วก็เศร้า

เห็น.....ว่าคนมีเงิน ก็ไม่สามารถครอบครองวัคซีนได้

     ยอมรับนะว่าตอนแรกจะไม่ฉีด คิดว่าตัวเองดูแลตัวเองได้ดี เพราะอ้อมเองมีโรคประจำตัว SLE แม้ช่วงนี่โรคจะสงบ ไม่ได้ใช้ยา (เมื่อสิ้นปีก็ถามคุณหมอว่าต้องฉีดไหม) ตอนนั่นก็ไม่ได้สนใจ เพราะกลัวกระตุ้นภูมิ(หรือแพ้) 

         พอมา พ.ค. 2564 เริ่มทบทวน เพราะเค้ามีหมอพร้อม(แอฟที่เรียกว่า หมอพร้อมแต่แอฟไม่พร้อม) เริ่มให้กลุ่มที่ 1: คนที่อายุ 60 ขึ้นไป และ 7กลุ่มโรคที่ควรรับวัคซีน ได้แก่
  1. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
  2. โรคหัวใจและหลอดเลือด
  3. โรคไตวายเรื้อรัง
  4. โรคหลอดเลือดสมอง
  5. โรคอ้วน
  6. โรคมะเร็ง
  7. โรคเบาหวาน

       อ้อมก็เริ่มหาช่องทางที่เราจะได้รับวัคซีน(หลังจากที่ได้คุยกับคุณหมอประจำตัว) ก็รู้สึกว่า เราต้องสร้างภูมิเพื่อชาติ ไม่ต้องกลัวผลข้างเคียงไปก่อน สั้นๆ การไม่ฉีดเลย คือ ภูมิเป็นศูนย์ หากเกิดการติดมาจริง จะโคม่าหนัก โอกาสกลับมาไว จะน้อยมาก ไม่ใช่ว่าฉีดแล้วจะไม่ตาย หรือป่วย 

      แค่ไม่เป็นไรหนัก เอานะ หากฉีดแล้ว SLE กำเริบ หมอรักษาอ้อมได้นะ แต่หากติดโควิดมา หมอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะรักษาได้ดีแค่ไหน (ฟังแค่นั่น....วัคซีนจ๋าพี่ขอหน่อย)

       อ้อมเองไม่กังวลไรมาเพราะเชื่อว่าตัวเองแข็งแรงพอสมควร(เมื่อเทียบจากเมื่อก่อน) และตอนนี้ก็ไม่ได้ใช้ยากดภูมิเลย (มาจะ2ปีได้) ดังนั่น จะ ซินโนแวค (ที่หมายปองตอนแรก...เพราะเป็นเชื้อตาย) หรือจะเป็ แอสตร้า (ที่ไม่เป็นเชื้อตาย) ก็เอาคะ

       เข้าโหมด แสวงหา วัคซีนที่รัก....หาให้ทั้งบ้าน ทั้งแฟน ทั้งแม่ เออ เราตรงกะทีไ่หนบ้าง ทีไ่หนให้บ้าง ลงทะเบียน ดักหมดจร้า หมอพร้อม นนท์พร้อม (เราพร้อม) บลาๆๆๆๆๆ หากไปเถอะ

       แล้วก็เรา วัคซีน มาแบบงง.....แบบไม่ทันตั้งตัว สิ่งที่เตรียมมา ก่อน และ หลังฉีด (ความรู้จัดเต็ม)
ทางบ. ได้หาโควต้า รับวัคซีน ของ ประกันสังคม ม.33 มาให้เราก็ลงทะเบียนไปทางเมลล์(ตอนนั่นทราบว่าได้ ซินโนแวค...เหมาะเลยต้องการพอดี)>>> ตามแผนรับวันที่ 8 มิ.ย. 64

        Ok ก่อนวันที่ฉีดเราจะไม่ออกกำลังกาย หนัก ลดกาแฟ ชา (ฝึกไว้) และพักผ่อนตุนไว้เลยจร้า

แต่แล้ว ก็มี sms ฟ้าประทาน มาในคืนวันที่ 6 มิ.ย. 64 จร้าว่าให้ไปรับวัคซีนเลย  ในวันที่ 7 มิ.ย. 64

         หา...อะไรนะ พรุ่งนี่ นั่นไง ปุ๊บปั็บฉีด แถมมะบ่ายพึ่งฟาดกาแฟไปจร้า(ผิดแผน ดอกที่ 1)

เอาไงดี ไม่ได้ละ เราต้องพร้อม ไม่งั้นเดียววัคซีนไม่พร้อมจะแห้วนะ 

...ปะงั้นรีบนอนกันจร้า เพื่อเช้าวันใหม่
Day#1: ไปรับวัคซีนกันเถอะ

7 มิ.ย. 64 : เข้ารับวัคซีน AZ กัน

💉ปุ๊บบั๊บ...วัคซีนโควิด7 มิ.ย. 64
เลื่อนเวลา & วันกันแบบนี้ พี่ก็งงแต่ก็ต้องพร้อม เอาไงเอากันให้จบไป
มาลุ้นกัน จะได้SVหรือ AZ แต่คาดว่าSV
💕ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ดื่มน้ำสะอาดไปเยอะๆ แอบขอกินน้ำผลไม้ไป หน่อย พร้อมใส่เสื้อแขนกุดเตรียมให้ฉีดเลยจร้า ยาดม พัดลมมือ ปากกา (จะได้ไม่ต้องใช้ของคนอื่น) เอกสารที่ต้องใช้ #ตื่นเต้น #รน #วัคซีนโควิด19 #ลุย
    เราไปถึงก่อนเวลา สถานที่เป็นลานจอดรถ(ในปูน)นั่นละ ก็โปร่ง โล่ง แต่อ้อมมาวันแรก คนเยอะมากเพราะ คนที่เข้ารับวัคซีนที่นี่ มีทั้งมาจาก มาตรา 33 และ ผ่านช่องทางอื่น(จำชื่อไม่ได้)...เราจะข้ามช่วงเวลาที่รอคอย และร้อนมาก สรุปว่ารอไป 3 ชั่วโมงได้คะ (วันแรกก็แบบนี้)
นาทีระทึก.....พอเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็น Astrazeneca นะวันนี้ โอแม่เจ้า ไม่ได้ศึกษามาเลย จะไหวไหมอ้อมเอ่ย ผลข้างเคียงเป็นไง ไม่รู้ รู้แค่ว่าไม่ใช่เชื้อตาย รีบปรึกษาเพื่อนๆที่เป็นเภสัช เป็นหมอ เท่าที่ได้...จริงๆ คือฉีดได้ แต่ผลข้างเคียงอาจจะหนักหน่อย เพราะ Astra เค้านั่นเตรียมมาเพื่อ คนสูงวัย รุ่นๆอาจจะมีผลข้างเคียงเยอะ...ตอนนั่นก็ไม่คิดอะไร เพราะทำใจแล้ว อะไรก็ได้ พี่เอาหมด


📌7-6-64:💉เข็มที่1 :Astrazenaca จรา
😀นั่งพักรอดูอาการ พยาบาลมือเบามาก
👉แจ้งว่าเป็นSLE เจอซักยาว และบอกว่าพี่สาวผมก็เป็น (แต่เสียและ)55
..พอบอกเป็นsle และสงบ หยุดยามาจะ2ปี ลงระบบ ผิว ผม ไต ข้อ แต่สงบแน่นอน หมอให้มาฉีด
‼️ดีครับฉีดไว้ดีกว่า ..ok ลุย
🙏🏻ใช้เวลา นาน 3 ชั่วโมงได้ ที่นี่แอบร้อน(โรงจอดรถ) แล้ว ลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ได้ อั่นไปคะ
💕ผ่านทุกจุด จะมาหมดแรงตอนพักดูอาการ อ้อมคงนั่งร้อนๆมานาน(แทบอยากถอดกางเกง) เลยมีอาการเวียนหัว คล้ายจะเป็นลม(คงเพราะร้อนมาก) เอานะนั่งพักกันไป
กลับบ้านกัน.....เหนื่อยจากการรอคอย เพราะคงร้อนด้วย เปิดแอร์ หาไรกินดีกว่า
ผ่านไป 3ชั่วหลังฉีด(คิดว่าฉีดตอน15.00)
👉หิวคะ
👉ร้อนสะสม(คงนั่งนาน) อาบน้ำเปิดแอร์แช่ไป
👉 เริ่มแขนหนัก
👉หิวน้ำ ปากแห้ง ตาแห้งแอบปวดหัว แต่นี่อาบน้ำแล้ว ค่อยสบายตัว
👉มีมึนๆ ปวดหัวเบาๆ แต่คิดว่าจากที่นั่งร้อนๆ เดียวดูอาการว่ามีไข้ไหม
📍แต่ว่ายังไหว ขอกินก่อนนนะ
....ว่าไป กินอิ่มก็นั่งพัก บอกตรงๆ ไม่รู้สึกอะไรมาก แขนที่ปวด ยังไม่เท่าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
เลยคิดว่า ไม่เป็น (ยังไม่กินยาลดไข้ใดๆ...เพราะกลัววัคซีนทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ) สิ่งที่บอกตัวเองว่า ดื่มน้ำเข้าไป อยู่ที่เย็นๆน่าจะหายร้อนวูบวาบ แล้วนอนให้ได้

ผ่านไป 5 ชั่วโมงนิด.....อาการมาแล้ว (ตอนนั่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ผลข้างเคียง AZ เป็นอย่างไร)
🤒อาการ มาแล้ว ปกติของคนรับวัคซีน(ม้าง)
📍รับวัคซีน :15.00
📌ตอนนี้ 20.25
👉ตัวลุมๆ
👉วัดไข้ ได้37.4 (ไข้อ่อน)
👉เพลีย
👉เริ่มหนักและปวดที่แขน
...มีปวดหัวเบาๆ ยังไม่ทานยากะจะนอน แต่หากไม่ไหวค่อยทานลดไข้ ขอวัดไข้ต่ออีกทุก 2 ชม. (พกปรอทไว้ข้างเตียง)#นอนกัน #เริ่มเหนื่อย #ไข้มา #astrazeneca #เข็มแรก #aomyshy #covid #covid_19

หลังจากนี่เป็นต้นไป พี่ขอเล่า ผ่านรูปนะจ๊ะ บอกเลยเป็นคืนที่โหดมาก คิดว่าร่างจะแตกสลาย เพราะนอนไม่ได้เลยจร้า ไข้สูงๆๆๆๆๆๆๆๆ ไต่สูงๆๆๆๆ มาก ในใจลึกก็คิดว่า นี่ SLE กำเริบ หรือว่าผลข้างเคียงของวัคซีนหว้า นาทีนั่น บอกตัวเอง อดทน เช็ดตัวเข้าไป วัดไข้ทุก 2 ชั่วโมง (ไม่ได้ขยันนะ) แต่มันปวดร้าวจนนอนไม่ได้ ตาร้อน ปวดหัว แบบว่า หนาวสั่น (ปลายมือ เท้าเย็น) แต่ตัวร้อน ปวดเข้ากระดูกเลย สรุป ทนจนเช้า แล้วก็ถามเพื่อนๆว่าเป็นแบบนี้



Day#2 : วันที่2 เช้าวันใหม่ ที่มะคืนอย่างกะมรสุมเข้า (เช้าแล้วโว้ยยยย)
ไหนใครรับแอสตร้า แล้วเป็นแบบนี้บ้าง
👉นอนไม่ได้เลย ตื่นทุก2ชม.
👉หนักหัว ปวดตัว ปวดเบ้าตา
👉ไข้พี่ไต่สูงมาก 39.1 (นึกว่าไม่รอด)
👉ตัวร้อนแต่ปลายมือ และเท้าหนาวสั่น
👉ปากแห้ง ตาแห้ง กินน้ำท้างคืน
‼️มานจะทรมานแบบนี้กี่วันหรอ 🤯
...ต้องไป รพ.ไหมนี้ หรือทานยาลดไข้ทุก6ชม นอนพักดูอาการก่อน
..หากใครจะฉีดไาเลือกแขนด้านที่ไม่นอนตะแคง(เรานอนตะแคงซ้าย-ฉีดซ้าย คือ นอนยากไปอีก) #ทรมาน #ปวดร้าว #นึกว่าsleกำเริบ #ขอจดบันทึกหน่อย #astrazeneca #เข็มแรกก็เล่นพี่แล้ว
ทุกอย่างตามนั่นจริง.....อ้อมว่าอ้อมเป็นคนอดทน(เรื่องการป่วย) ดีแล้ว ถึกแล้ว ตืนลงมา น้ำตาคลอ...คือทรมานมาก(คงเพราะไม่ได้เจ็บป่วยแบบนี้มานาน) เอาละ คิดว่าไม่ปกติละ แต่ต้องแยกแยะก่อน นี่อาการของอะไรกันแน่ ดีนะที่พี่ๆน้องๆ ที่ผ่านมาแล้ว ให้ความรู้และข้อมูล ประกอบกับโทรไปโรงพยาบาล ขอคุณกับคุณหมอ แต่พยาบาลอธิบาย และแนะนำว่า นอนดักคะ แล้วทานยาลดไข้ ทุก 4 ชั่วโมง
เราเลยน้อมรับ ไทลินนอลเม็ดแรก ในเช้าวันที่ 2 พร้อมกับขอลาป่วยนอนตายไปเลยเพราะปวดหัวมาก ปวดร่างมาก (อย่างกะเล่นเวทมาหนัก) นอนหงายก็ปวดหลัง ร้าวสะโพก ตาร้อน แทบไม่อยากลืมตา
ทำได้แค่ปิดการรับรู้ทุกอย่าง พยายามนอน (เพื่อระงับความปวด) ไม่อยากไป รพ. เพราะกลัวโควิด



รับยาวนไป แล้วไปนอนซะ อ้อมเอ่ย Day#2 : วันที่ต้องพักร่าง




เอาเป็นว่า กินยาลดไข้ใน Day#2 วนไป รวมแล้ว 5 เม็ด ได้แต่ก็ดีกว่าไม่กินนะ ไม่งั้นไข้จะสูงตลอด

Day#3 :เช้าวันที่ 3 เหมือนฟ้าหลังฝนปรอยๆ(ยังคงมีฝนปรอยนะ ยังไม่ฟ้าใส)
บอกเลย Day#3 ก็ยังทรงๆ แต่พี่คงต้องทำงานจร้า เอาคะ ดีกว่าวันที่ 2
ก็พักผ่อน ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วงนี่มีแต่ไข้ต่ำ อ้อมดันตาแดง(อันนี้คงเพราะตาแห้งเป็นทุนเดิม)

สรุปว่า.....การรับวัคซีน (แอสตร้า) ไม่ได้น่ากลัว แค่หนักหน่วง 2-3 วันคะ อาการมาก หรือ น้อย แล้วแต่เบสของร่างกายแต่ละคน แต่ยอมรับว่ารับวัคซีนมา แล้วกินเก่งตัวบวมดี คงเพราะหิวตลอด แต่บอกตัวเองว่าเอาให้ปกติค่อบมาปรับอาหาร การกิน และออกกำลังกายใหม่...ไม่อยากกดดันตัวเอง
สุดท้ายของฝากเนื้อหา รายละเอียดของวัคซีน(ในช่วงนี้) ไว้หน่อย หวังว่า เราคนไทยทุกคนต้องรอด
เราจะสู้ไปด้วยกัน การ์ดอย่าตก ใส่แมส ล้างมือบ่อยๆ ไปข้างนอกให้น้อยที่สุด อาบน้ำ ล้างตัว อนามัยสุดๆ




ในหมอพร้อมจะมีประวัติการรัววัคซีนเราด้วยน๊า

แต่อุณหภูมิ....นี่ผีไหมนี้ 34 (น้อยไป)นะ

เข็มที่2:บอกเลย อาการข้างเคียงไม่รุนแรง อ้อมเองก็มีไข้อ่อนๆ ก็ทานยาเมื่อมีอาการ
พัก 2-3วันก็ดีขึ้นคะ



Update : รายละเอียดการรับวัคซีน....ปี 2564 (กันลืม) มีประวัติการฉีด ดังนี้คะ เข็มที่ 1 : 7 มิย.64 (แอสตร้า) เข็มที่ 2 : 17 สค. 64 (แอสตร้า เข็มที 3 : เป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ : 21 ตค. 64

ในปีนี้ถือว่า Job Done แล้วคะเรื่องวัคซีนประจำปีนี้
แต่เราต้องใส่หน้ากาและดูแลตัวเองดีๆ เว้นระยะ เพราะน้องโควิดยังคงอยู่
เราต้องรอดคะ
ปี 2565 ว่ากันใหม่...แพลนว่าจะฉีดอะไรบูสเตอร์ต้องมาไหม คงต้องดูสถานะการณ์โดยรวม
แต่เราต้องมีภูมิ