วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Oh my Osaka - Japan trip April 2017 :EP3: เดินทางกันเถอะ...ครั้งแรกกับหลายๆสิ่ง


Episode 3: เดินทางกันเถอะ
ครั้งแรกกับ.....อะไรมากมายสำหรับทริปนี้ตั้งแต่
  -บินกับแอร์เอเชียเอ็กซ์แบบbusiness >< เรียกว่านอนไปเลยจร้า Flat bed มันเยี่ยมจริงๆ
  -แวะพักกับ King Power สาขาดอนเมือง
  -ครั้งแรกกับโรงแรม Business Hotel Nissei

Day1 : 5 เม.ย 2560  :
DMK To Kansai Airport -Business Hotel Nissei

เริ่มเลยละกัน...ครั้งแรกกับ @ แอร์เอเชียเอ็กซ์ แบบชั้นธุรกิจ

     รอบนี้อลังการงานสร้าง ขาไป ไปอย่างไฮโซ Business เลย มันเลิศ นอนไปเลยงานนี้ ราคาต่างกันไม่กี่บาท ก็เอาซิคะ แถมได้นน.เยอะมากขาไปคนละ 40 kg อืม..จะแบกไรไปทิ้งที่โน่นหรอ มีอาหารบนเครื่องพร้อมโซนเงียบด้วย เป็นความต่างที่คุ้มค่ามากคะ แถมแอร์คนญี่ปุ่นดูแลส่วนตัว เวลาคุยกะเราเค้าย่อตัวลงมาคุย จนเราตกใจ(แต่อันนี้แล้วแต่บุคคลละมั้ง) เอาเป็นว่าติดใจขาBusiness มากๆตั้งแต่
1.ตอนโหลดกระเป๋าก็มีแถวเฉพาะ และเข้าได้ก่อนใคร
2.ตอนนี้เรียกก็ได้ไปก่อนเดินสวยๆเข้าไปค๊า
3.กว้างขวาง นอนได้ มีหมอน มีผ้าห่ม มีอาหาร มีน้ำ มีช่องเสียบไฟให้ชาร์ตอะไรต่อมิอะไรได้
4.นอนสบายมากๆๆๆๆๆๆยาวอย่างกะเอาเตียงไป
5.มีบริการที่มีแอร์ดูแลพิเศษ มีเอาผ้าเช็ดมือมาให้เมื่อมาถึง สอบถามแบบนอบน้อมากๆ(ดีจริงๆ)
6.ราคานี้รวมอาหาร และน้ำหนักกระเป๋า 40 kg มันลิศมาก
7.ในโซนFlat bedนี้จะมีไม่กี่ที่ จับเป็นคู่ๆ 3 ตอนได้ หากจำไม่ผิดนะค่ะ แต่ขอบตรงที่ เงียบมากเหมือนเครื่องบินส่วนตัวเลย
กระเป๋าพร้อม
ทิชชูเปียกเช็ดมือ

กระเป๋าพร้อม กายพร้อมงั้นลุย
ขึ้นเครื่องมา แอร์ก็ยืนขนมมาให้กิน เย้ย...ไม่ใช่ มันเป็นทิชชูเปียกให้เราทำความสะอาดมือ...อะไรจะขนาดนั้น
งานนี้ไม่ต้องกลัวหมดไฟมีให้เสียบชาร์ตตลอดเวย์
มาดูทีนั้งและบรรยากาศกันคะ
มีโคมไฟดวงน้อยส่วนตัว

ลองเอียงตัวลงนอน(ยังไม่สุด)
ที่นั้ง ดังที่นอน(ก็มันนอนได้จริงนิคะ)

นั้งสวยๆ กว้างขวางมากมาย

นอนยาวๆพร้อมผ้าห่มและหมอนแบบส่วนตัว


ข้าวหน้าเนื้อ
อันนี้เป่าที่เค้าเตรียมให้
อันนี้สั่งเพิ่มเอง
เมนูเส้นๆ
อุ่นมาพร้อมทานเลย









        ยังไง ลองหาโอกาสไปสัมผัสความสบายแบบไฮโซ(ม้าง) กับTAAX กันคะ Flat bedเค้าสบายจริงดีจริงเหมาะมาก



 มาต่อกับครั้งแรก...ครั้งแรกกับ @ King Power สาขาดอนเมือง
     พอดีมีบัตร SCB King Power เลยขอแวะไปใช้สิทธิ์เสียหน่อย ว่าเล้าจ์ของ King Power สาขาดอนเมือง(พึ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน) มีอะไร น่าสนใจบ้างน๊า....
    ก่อนไปใช้สิทธิ์เชคทางking power ผ่านทาง FBคะว่า สามารถใช้งานได้จริงไหม(เดียวเสียเทียว)...ได้ผลดังนีค่ะ

- เป็นบัตรสมาชิกร่วม KINGPOWER – SCB (ส่วนลด 15%) 
-ท่านสามารถใช้บริการห้องรับรองพิเศษ (King Power Lounge) พร้อมผู้ติดตามอีก 1 ท่าน
ที่คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยแสดงบัตรสมาชิก (พร้อมหนังสือเดินทางและ Boarding Pass สำหรับการใช้บริการที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานดอนเมือง) ค่ะ
 

       โดยคิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง ตั้งอยู่ที่บริเวณร้านค้า ก่อนถึงจุดรับสินค้า หลังผ่าน Immigration ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ
(เปิดให้บริการ 20 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป) ค่ะ













มีที่ชาร์ตแบตให้เสียบด้วย

       โดยรวม...เป็นส่วนตัวดีคะ คนไม่พลุกพล่าน แถมพาผู้ติดตามไปได้ด้วย1คน แบบนี้ดีตอบโจทย์
ส่วนขนมและอาหารยังไม่หลากหลายคะ ใครคิดจะไปฝากท้อง(หนักๆ)คงยากคะเพราะเรากินยังไม่อิ่มเลยแถม ไม่อร่อยเท่าไร 55 เรียกว่าแวะไปให้รู้จร้า
    ออกเดินทางกันดีกว่าคะ...แอร์เอเชียล้อหมุน กระพือปีกตรงเวลาม๊ากๆ Let's go to OSAKAกันจร้า

      โอ้แม่เจ้ามืดติ๊ดตือ นั้งดูมาตลอดทาง มีแวบนึงที่ เครื่องบินกำลังทรงตัวท่ามกลางน้ำ (สนามบินอยู่ในทะเล) อยากบอกว่า นักบินเก่งจัง เราก็ลุ้นกันไปจนล้อแตะรันเวย์ ก็โล่งใจ
        ถะ ถะ ถะ ถึงแล้ว.....นักบินแจ้งเวลาเมื่อถึงสนามบินคันไซ 22.05 ฮะ ฟังไม่ผิดใช่ไหม เตรียมตัวจร้า
 อย่างที่บอกค่ะ....ตามแผนนั้นเราจะถึงราวๆ 22.40 ในใจก็คิดแผนกันไว้แล้ว หากไม่ทันรถไฟรอบสุดท้ายเข้าเมือง(23.40)นั้นเราจะไปรถไนซ์บัส กันจร้า แต่เดชะบุญคะ TAAX บินถึงก่อนเวลา ราวๆ22.05 (ที่นักบินแจ้ง) เราก็รีบโกยจร้า เป็น business ได้ลงก่อนเดินก่อนเอากระเป๋าก่อนจร้า(มันดีอย่างนี้เอง แพงกว่ามันเลอค่า)
รอรถไฟพาไปTerminal 1 เวลาอย่างไว
      การเดินทางต้องนั้งรถไฟ เชื่อมเข้าไปนะค่ะ พอเดินออกจากเครื่องบิน เราก็เดิน(ตามเค้าไป) แล้วก็รีบไปขึ้นรถไฟที่พาไปสู่ตัวอาคารคะ เรามาถึงไว ก็เข้าไป แล้วแวบเดียวก็มาถึงจุดรับกระเป๋า ตอนนั้นก็รีบหยิบคะแล้วเตรียมเอกสารเดินไปตม. คนเริ่มมาเยอะแต่อย่างที่บอกคะเรามาไว ไปไว ไหวตัวเร็ว ผ่านตม. สบายๆ แอบมีเจ้าหน้าที่ทักเรื่องการกรอกเอกสารนิดนึงแต่เราพกปากกาติดตัวเลยไม่ต้องออกจากแถวไปกรอกเอกสารใหม่(เจอว่าเรื่องจำนวนวันที่จะอยู่ ลืมใส่คำว่า Daysนะค่ะคือ ใส่8ไปไม่ใส่หน่วย เลยเจอทัก ก็เลย ใส่Daysไป)....จบคะสบาย เดินสวย ยิ้มไป แล้วก็สำเพ่าคะ นู๋อ้อมลืมเซ็นต์ชื่อในเอกสาร(จะรีบไปไหน) แต่ก็ไม่มีอะไร ก็เซ็นต์ไป จบคะ ผ่านออกมาได้ ใช้เวลาไม่นานเลยจริง ...เวลาเหลือๆ เดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะไปต่อ
      เมื่อเวลาเหลือเราก็ต้องไปรถไฟซิคะ...จะรอช้าทำไมขึ้นไปชั้น2 คะเดินข้ามไป terminal 2 มองหาNANKAI Officeคะสีส้มๆ มอง งง ตายละตู ลงไหน อ่านม่ายออก ไม่หยอดมันละ งั้นก็งัดเอกสารออกมา พร้อมเดินไปหาเจ้าหน้าที่
ได้ตั่วมาแล้วก็เดินทางกันต่อ
§  อะโนวววว(I don’t knowในใจ) คือ ไอ วอท ทู โก.....(ชี้ให้ดูเอกสารที่จะไป)
§  อะเคร...เจ้านี้หยิบราคาให้ดู จะเอาแบบจองไม่จอง หรือจะไปสายด่วน(Repiไรนี้จะ อัศวินทร์สีน้ำเงิน)
§  อ่อ...No Reserved จิ้มราคา ถูกสุด Namba(Nankai) 920¥
แล้วเค้าก็ให้ตั๋วมาตามราคาที่เราเลือกและบอก No.5ไรนี้ ได้ยินไวๆ ดีนะที่ได้ยิน  ไม่งั้นงงคะ ทำไมงงหรอ ก็ในตั๋วไม่มีบอกเลยว่าไปชานชลาไหน ตรงไหน
เอาละรีบไปกันดีกว่า เป็นการขึ้นรถไฟแบบรวดเร็วและ โดดเลย หันหลัง มองสีส้มๆ นั้นไงด้านหลังที่ซื้อตั๋วนี้เอง สอดบัตรแล้ว Go….เลยจร้า  ไปไหนต่อละ มีลงต่อไปอีก ไปไงงะ No.5หรอ  ลงไปอีกชั้นนี้ อะเคร ไป ไหนไปกัน (มั่วมาก)แล้วก็เห็น รถไฟจอดอยู่ 1 คัน เห็นตัววิ่งว่า Namba เอาวะ ไปเหอะ หนาว...ไงก็ปลายทางใช่ โดดไปนั้ง พร้อมตีกะการ set up wifi ต้องรีบ connectนะค่ะ แบบว่ามันเหมือนคนหูหนวก ตาบอด อะ ว่าไปนั้นแล้วก็set upได้ อะเคร โล่ง งั้นเราก็นั้งพักฟังไปว่าถึงไหนแล้ว...มองไปรอบๆคนเยอะนะนี้ นี้มันจะห้าทุ่มแล้วนะ คนเพียบเลย 

ห้างที่หลงอยู่เมื่อคืน
ถึงแล้วจร้าซักที่ ในนัมบะ เป็นห้าง เป็นทางที่งงมากจร้า จูนตัวเองมากมาย นี้ละน๊าที่เค้าว่าสถานี้มันเชื่อมกะห้าง เอาละหว้าไปไงดี มองmap มองทางที่แอบทำการบ้านมา เอารายละเอียดที่โรงแรมแจ้งมาว่าไปทางไหนออกตรงไหน อืมเอาละไปไม่ถูกกล้าๆกลัวๆ...งงงงคะ ออกจากตึกไงนี้
และแล้ว มองไป มองมา จนเจอหนุ่มน้อยที่เดินชิลๆมองๆเรา และเลยไปแล้ว แต่เราก็มองตาม(แบบไม่ได้คิดอะไร) เค้ากลับหันหน้ามายกมือsay hi แล้วเดินมาช่วย เรายืนแผนที่โรงแรมที่เป็นversion japan แล้วก็ เฮ้ยๆ เค้าหยิบมือถือ เปิดgoogle map พิมพ์ตัวอักษาญี่ปุ่นหา หา หา แล้วก็ชี้ไปที่แผนที่ว่า You here (มาด่าเค้าทำไม....ล้อเล่นไม่ใช่เ..ยแบบนั้น)
อะเค...สำเนียงพอฟังได้ แล้วเค้าก็บอกรอตรงนี้เดียวมา เค้าเดินเข้าไปร้านสะดวกซื้อตรงนั้น คงไปถามไรต่อ แล้วก็ เดินมากวักมือเรียกเราไป ...สรุปแล้ว เทอผู้น่ารักคนนี้บอกว่าเค้าอยู่ที่นี้แต่ไม่เคยรู้จักโรงแรมนี้เลย อ้อมบอกว่าอิอิ แบบว่าโรงแรมไม่แพงใกล้สถานีนะค่ะเลยไม่ค่อยรู้จัก น้องเค้าเคยมาไทยด้วย เค้าพูดEngดีระดับใหญ่(แหม ตัวเองก็ภาษาดีแย่) น้องเรียนที่ ม.เกียวโต เค้าชวนคุยและเดินไปส่ง เราก็ตามๆเค้าไป เค้าถามว่าไปเที่ยวไหนบ้างเราก็เล่าคร่าวๆ จริง ตูก็ยังๆงงๆจำไม่ได้หรอกแต่ตอนนี้เหนื่อย จำทางก่อน เด่วเดินกลับโรงแรมเองไม่ถูก นางก็พากันไป เรื่อย พูดเก่ง ดูเป็นมิตรมาก เราบอกไป USJ และก็ไป เมืองโน่น เมืองนี้ บลาๆไป เม้าส์มอยส์ไปเลย จนถึงหน้าโรงแรม Oh แม่เจ้าใช่เลย แต่ระหว่างทางที่เดินมีความสนุกสนาน นี้จะเที่ยงคืนแล้ว ร้านค้า ห้างร้านคนยังนั้งแน่น และกินหนัก ดื่มหนัก(มีคนเมานอนอยู่กะพื้นเลย) อืม..นี้คือทำงานเครียดจัดหรอ 55 เมาซะงง (แอบขำเราก็งงเค้าคารวะใคร เห็นก้ม(คล้ายกราบ)ซะนานเลย
ทางลงsubwayทุกวันก่อนเดินทาง...หน้าสตาร์บัคเลย

มองไปตรงข้าม จะเห็นทางเข้าไปยังโรงแรม
นอกเรื่องนานไป เรามาเข้าเรื่องสุดท้ายกับครั้งแรกกันคะ















ครั้งแรกกับ @โรงแรม Business Hotel Nissei
รูปหน้าโรงแรมยามดึก
บริเวณต้อนรับ ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลย 24ชั่วโมง
         เอาเป็นว่าถึงที่พักแล้วแจ้งชื่อ เค้าก็เอารายละเอียดมาว่าพักกี่วัน ให้กุญแจมา แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปจร้าชั้น6 มีคนบริการ 24h.จริงมาcheck in lated ก็ได้ อะเครนะ จ่ายตังเลยจร้า รูดได้ จ่ายสดได้ พอจ่ายเสร็จก็ได้รายละเอียดการลงมาทานอาหาร(รองท้อง) ยามเช้า และชิทางให้ดูคะ ว่าทางนี้ตรงนี้นะ และมีwifiให้ใช้ เราก็ อะเคร แทงยูมากๆจร้า
แผนที่โรงแรม

วิวจากระเบียงตรงลิฟท์ ชั้น6
กุญแจ..เวลาออกไปข้างนอกต้องฝากที่เค้าท์เตอร์เสมอ
กุญแจแปลกดี
ปะขึ้นห้องดีกว่า....เดินไปถึงห้อง เปิดประตูไป อะเทอ เล็กได้ใจ แต่ไม่เป็นไรเราไม่เน้น เปิดดูห้องน้ำ อะเล็กสมส่วนมีอ่าง มีของใช้ มีอุปกรณ์ใช้สอยทั่วไปครบ มีผ้าเช็ดตัว มีชุดยูกะตะ มีรองเท้าเดินในห้อง มีกาน้ำร้อน มีตู้เย็นเล็ก มีผ้าเช็ดตัว เช็ดผม(เปลี่ยนให้ทุกวัน) และมีจอแบน แบบจอLCDคอม นึกว่าทีวี เป่าจร้าเป็นแบบว่าให้ใส่การ์ดพิเศษ...ไปเช่าเอาไรงี้ แต่เราไม่ได้บริการน๊า หากสนใจลองดูค๊า อิอิ หนังพิเศษ
หน้าต่างบานนี้ละจร้า

ทางหมูเดิน
จริงก็ไม่คับแคบมากวางเป๋าได้นะ
รายละเอียด ไวไฟและเวลา bF

Semi-Bed นอนกอดกันสบาย

      หันไปหันมา เอ๊ะ เปิดแอร์ตรงไหน ทำไมเราเปิดแล้วมันร้อน 555 ก็มันเป็น Heaterนี้เธอ อ่อ แล้วปรับไงงะอ่านมะออก อะเคร โทรไปหาชั้น1 มั่วคะ ดูๆที่โทรศัพท์ พร้อมskillมั่ว ไม่0 กะ 9 เด่วจะถูกซักเบอร์นั้นละ แล้วก็มีเจ้าหน้าทีรับ เค้าก็ตอบเราไม่ได้ แล้วก็วางสายไป อ้าว งง คะ งง ไม่ทันถึง 10 นาทีมีคนมาเคาะห้อง อะเมซซิ่งจร้า เค้ารู้เลยว่าเป็นเรา สงสัยจำลูกค้าได้ หรือ อีนี้แน่ๆที่มีปัญหา 55+             สรุปว่าเค้าก็มาเปิด เหมือนที่เราเปิด แล้วก็ชี้ไปที่หน้าต่าง อะเคร....ไม่มีแอร์ มี Heaterนะ (ตอนหลังเมลล์ไปสอบถามเค้า…..สรุปว่า แอร์นะมีแต่เป็นแอร์รวมนะจะเปิดตามฤดูกาล อะไรประมาณนี้
   










      มาต่ออีกนิดสำหรับอาหารเช้าที่โรงแรมนี้ จะไม่ได้มีอาหารหนักเป็นจานหลักอะไรนะคะ
เตรียมหยิบอุปกรณ์การกินได้ตรงนี้คะ
    











         จะเป็นเพียง ขนมปัง ไข่ต้ม มันบด ชา กาแฟ น้ำเปล่า น้ำส้ม เนย แยม มีอะไรทำนองนี้ทุกวัน เริ่มให้บริการแต่เช้าจนถึง9.30 และเวลาไปใช้บริการ จะต้องบริการตัวเอง จะอยู่ชั้น1 ชั้นเดียวกับเค้าร์เตอร์ที่เข้ามา แต่เดินตรงเข้าไปด้านหลัง Step การทานอาหารเช้า
1.เดินเข้าไปทางห้องอาหาร
2.หยิบถาด หยิบจาน(เหมือนเด็กนักเรียน)
3.ไปมุมอาหาร หยิบอาหารที่ชอบ ไข่ มันบด หนมปัง กาแฟ วนๆอยู่ตรงนั้นเสร็จก็ยกมานั้งหม่ำๆกันได้เลยคะ 
4.ทานเสร็จยกไปเก็บที่โต๊ะ(จะมีป้ายเขียนไว้...แต่อ่านไม่ออกหรอก) เป็นอันว่าจบอาหารเช้า






                         ----ครบ เรื่องครั้งแรก ทั้ง3 ใน Episode 3: แล้วนะคะ--- งั้นเราไปลุยกันต่อ

         เมื่อเก็บของนั้งพักเราก็มองว่าเราควรหาอะไรกิน...ก็เดินออกไปแบบมั่วๆ แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเพราะอย่างที่บอกร้านค้ายังเปิดและมีคนนั้งกันมากมาย เดินไปเจอ7-11สิ่งที่เราได้มาก็น้ำผลไม้ ข้าวปั้น สปาเกตตี้ กินง่ายๆกันตายซะหน่อย555 แล้วก็รีบนอน (ดีกว่า)

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะจ๊ะ
เตรียมไปตะลุยกันต่อ....ไปไหนเดียวมาติดตามกันที่ Episode 4: 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น